FTREIT ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 62 กวาดรายได้ 677 ล้านบาท อัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 84 สะท้อนผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม

  • ผลประกอบการไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2562 นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 677 ล้านบาท และมีรายได้จากการลงทุนสุทธิทั้งสิ้น 422 ล้านบาท
  • โชว์อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 84 สะท้อนผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ มั่นใจสามารถสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับไตรมาสแรกปีงบประมาณ 62 ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตรา 0.1670 บาทต่อหน่วย ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 4.4% เมื่อเทียบกับ ไตรมาสที่ผ่านมา
  • ครองสถานะ “กองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย” ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 36,000 ล้านบาท
  • การบริหารงานภายใต้แบรนด์ระดับโลกอย่าง “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” จะเสริมศักยภาพของกองทรัสต์ FTREIT (หรือที่รู้จักในชื่อเดิมว่า TREIT) และผู้จัดการกองทรัสต์ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” (หรือที่รู้จักในชื่อเดิมว่า TMAN) ตลอดจนเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองทรัสต์เพื่อขยายทรัพย์สินในพอร์ต รวมถึงการเข้าถึงนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยชื่อย่อสัญลักษณ์การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เปลี่ยนเป็น 'FTREIT' ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2562

กรุงเทพฯ 18 กุมภาพันธ์ 2562

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2562 นับจากวันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” (ชื่อเดิมคือ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ TMAN) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ FTREIT ระบุว่า “ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2562 FTREIT มีรายได้จากการลงทุนสุทธิทั้งสิ้น 422 ล้านบาท จากรายได้รวมทั้งสิ้น 677 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่กองทรัสต์สามารถหาผู้เช่าที่มีศักยภาพมาเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าเพิ่มเติมได้ในไตรมาสนี้ รวมถึงกองทรัสต์มีการบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 62 คณะกรรมการของผู้จัดการกองทรัสต์ประกาศอนุมัติจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตรา 0.1670 บาทต่อหน่วย ซึ่งสูงกว่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ประกาศจ่ายในไตรมาสก่อนหน้าที่ 0.1600 บาทต่อหน่วยทรัสต์ หรือเติบโตขึ้นประมาณ 4.4%

สำหรับผลงานด้านการบริหารสินทรัพย์ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2562 นั้น บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน FTREIT ได้ดำเนินการโอนสินทรัพย์ซึ่งตั้งอยู่บน 8 ทำเลยุทธศาสตร์ ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ อยุธยา ปทุมธานี ปราจีนบุรี รวมมูลค่ากว่า 1,907 ล้านบาท เข้าสู่กองทรัสต์ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 72,775 ตารางเมตร ในการนี้กองทรัสต์ได้ทำการออกหุ้นกู้เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์ดังกล่าวโดยหุ้นกู้มีอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่เหมาะสมและได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ปัจจุบันกองทรัสต์มีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 36,000 ล้านบาท ครองตำแหน่งกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพของผู้จัดการกองทรัสต์ (FIRM) ทำให้ FTREIT มีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 78 ในไตรมาสก่อนหน้าเป็นร้อยละ 84 ณ สิ้นธันวาคม 2561 และจากการที่มีอัตราการเช่าสูงขึ้นทำให้กองทรัสต์สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาโรงงานและคลังสินค้าที่ไม่มีผู้เช่าลงได้ ขณะเดียวกันในไตรมาสนี้ผู้จัดการกองทรัสต์ได้พิจารณาขายทรัพย์จำนวน 2 ยูนิตซึ่งประกอบไปด้วย โรงงาน 1 ยูนิตและคลังสินค้า 1 ยูนิต ซึ่งการขายทรัพย์ดังกล่าวทำให้กองทรัสต์สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์สิน พร้อมเพิ่มอัตราการเช่าโดยรวมของกองทรัสต์อันเนื่องมาจากการขายทรัพย์สินที่ไม่มีผู้เช่า และมีกำไรจากการขายทรัพย์สินในอัตราที่เหมาะสม

นอกจากนั้น ผู้จัดการกองทรัสต์ยังเดินหน้าดำเนินงานเรื่องการปรับปรุงทรัพย์สินเพื่อการเพิ่มมูลค่า โดยได้ลงทุนขยายพื้นที่ให้เช่าตามความต้องการของลูกค้าจำนวน 1,700 ตารางเมตร สำหรับโรงงาน 1 ยูนิต ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง ตามที่คณะกรรมการผู้จัดการกองทรัสต์ได้อนุมัติไว้ในปีงบประมาณ 2561 ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้กองทรัสต์มีรายได้เพิ่มขึ้นจากพื้นที่ส่วนต่อเติมดังกล่าว และมีสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาวสำหรับพื้นที่ส่วนต่อเติมที่เข้าลงทุนนั้น

ผู้จัดการกองทรัสต์มีความมั่นใจว่าในไตรมาสที่เหลือของปีงบประมาณ 2562 จะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินภายใต้กองทรัสต์ให้มีอัตราการเช่าที่อยู่ในระดับที่สูง ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทรัพย์สิน และหาโอกาสในการลงทุนในโครงการต่อเติมพื้นที่ส่วนขยายเพิ่มเติม ซึ่งสร้างรายได้เพิ่มเติม และ ผลตอบแทนที่สูงแก่กองทรัสต์” นายพีระพัฒน์ กล่าว

สอบถามข้อมูลนักลงทุนสัมพันธ์