FTREIT อวดผลประกอบการไตรมาสแรกปี 65 กวาดรายได้ 905.8 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลไตรมาส 1 ปี 65 ในอัตรา 0.1700 บาทต่อหน่วย

  • FTREIT โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564) เผยรายได้รวม 905.8 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 11.8% ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิมีจำนวน 635.8 ล้านบาท เติบโต 19.0%
  • อัตราการเช่าเฉลี่ยไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม - ธันวาคม 2564) อยู่ที่ 87.3% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 2.0%
  • ประกาศจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ไตรมาสที่ 1 ในอัตรา 0.1700 บาทต่อหน่วย

กรุงเทพฯ 3 กุมภาพันธ์ 2565

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” เผยผลการดำเนินงานของ FTREIT ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม - ธันวาคม 2564) รายได้รวมอยู่ที่ 905.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.8 ล้านบาท หรือ 11.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากการลงทุนสุทธิมีจำนวน 635.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.7 ล้านบาท หรือ 19.0% โดยมีปัจจัยหลักมาจากพื้นที่เช่าและอัตราการเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 1 ซึ่งมีอัตราการเช่าเฉลี่ย (Average Occupancy Rate) อยู่ในระดับสูง ที่ 87.3%

พร้อมกันนี้จากผลประกอบการของ FTREIT ที่เติบโตขึ้นทำให้กองทรัสต์สามารถประกาศจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสที่ 1 ในอัตรา 0.1700 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2565

ปัจจุบัน ทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของกองทรัสต์ FTREIT มีมูลค่ารวมกว่า 44,536.3 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 641 ยูนิต บนพื้นที่ให้เช่ารวม 2.06 ล้านตารางเมตร โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ ปราจีนบุรี และพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก

นายธนะรัชต์ บุญญะโกศล กรรมการผู้จัดการ FIRM เปิดเผยว่า “FIRM สามารถบริหารจัดการกองทรัสต์ FTREIT ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตลอดช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังคงยืดเยื้อด้วยการระบาดระลอกใหม่และเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยสามารถรักษาอัตราการเช่าไว้ใด้ในระดับสูง และยังคงมุ่งขยายฐานผู้เช่าคุณภาพรายใหม่เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอ สำหรับการดำเนินงานในปี 2565 กองทรัสต์มั่นใจว่า FTREIT จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการบริหารงานเชิงรุก ประกอบกับอานิสงส์ของสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์และธุรกิจที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อีคอมเมิร์ซ ค้าปลีก รวมถึงยาและเวชภัณฑ์เติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งส่งผลให้ FTREIT เติบโตต่อเนื่องจากความต้องการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ กองทรัสต์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยภาคธุรกิจภายในประเทศจะฟื้นตัวจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของกองทรัสต์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ FIRM จะยังคงติดตามสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการดำเนินงานของกองทรัสต์อย่างใกล้ชิดและบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ของ FTREIT ต่อไป”

สอบถามข้อมูลนักลงทุนสัมพันธ์