• FTREIT ประกาศผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2564 (สิ้นสุดเดือนกันยายน 2564) มีรายได้รวม 3,416.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.1% และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิมูลค่า 2,371.0 ล้านบาท หรือโตขึ้น 13.0%
• ประกาศจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในไตรมาสที่ 4 ด้วยอัตรา 0.1690 บาทต่อหน่วย รวมผลประโยชน์ตอบแทนทั้งสิ้น ตลอดปีงบประมาณ 2564 เท่ากับ 0.6740 บาทต่อหน่วย
• สามารถเพิ่มอัตราการเช่าเฉลี่ยของพอร์ตโฟลิโอให้อยู่ในระดับสูงที่ 85.4% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.8%

กรุงเทพฯ 8 พฤศจิกายน 2564

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” เผยผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563 - กันยายน 2564) มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,416.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 368.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,371.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 272.0 ล้านบาท หรือ 13.0% โดยมีปัจจัยหลักมาจากอัตราการเช่าเฉลี่ยที่สูงขึ้น พร้อมกับทรัพย์สินคุณภาพที่เข้าลงทุนในปีที่ผ่านมาสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่กองทรัสต์ พร้อมกันนี้ FTREIT ได้ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาสที่ 4 ในอัตรา 0.1690 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ตลอดปีงบประมาณ 2564 FTREIT จ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตรา 0.6740 บาทต่อหน่วย

ปัจจุบันทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของกองทรัสต์ FTREIT ประกอบด้วยอาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 642 ยูนิต บนพื้นที่ให้เช่ารวม 2.07 ล้านตารางเมตร ทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของประเทศ ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ ปราจีนบุรี และจังหวัดในพื้นที่อีอีซี ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2564 มีอัตราการเช่าเฉลี่ย (Averager Occupancy Rate) อยู่ที่ 85.4%

นายธนะรัชต์ บุญญะโกศล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” กล่าว “ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2564 กองทรัสต์ยังคงได้รับอานิสงส์จากภาคโลจิสติกส์ที่มีความต้องการเช่าคลังสินค้าระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ (Container Shortage) ประกอบกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดีมานด์สำหรับการเช่าโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลให้อัตราการเช่าเฉลี่ยของกองทรัสต์ที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน 1.8% เป็น 85.4% สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจปีหน้า FIRM พิจารณาว่าภาคการส่งออกและการผลิตจะมีแนวโน้มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น สืบเนื่องจากความคืบหน้าของการกระจายและระดมฉีดวัคซีน รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดและการสนับสนุนเศรษฐกิจของภาครัฐ โดย FIRM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ จะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ที่อาจส่งผลต่อผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด และเดินหน้าบริหารงานเชิงรุก พร้อมมองหาโอกาสในการเข้าลงทุนในทรัพย์สินศักยภาพสูงจากกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) และบุคคลนอกกลุ่ม เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่กองทรัสต์ ตลอดจนสร้างผลประโยชน์ตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ FTREIT”