FTREIT โชว์ผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 63 กวาดรายได้กว่า 3,048.4 ล้านบาท พร้อมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน 0.1680 บาทต่อหน่วยทรัสต์

  • FTREIT ประกาศผลประกอบการปีงบประมาณ 2563 (วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563) (“ปี 2563”) สามารถสร้างรายได้รวม 3,048.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.6% และมีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 2,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20%
  • กองทรัสต์เข้าลงทุนซื้อทรัพย์สินศักยภาพสูงเพิ่ม จากทั้งในและนอกกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (FPT) รวมมูลค่ากว่า 4,908 ล้านบาท และยังคงครองสถานะ “กองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย” ด้วยมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกว่า 41,143.6 ล้านบาท
  • กองทรัสต์ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนไตรมาส 4/2563 จำนวน 0.1680 บาทต่อหน่วยทรัสต์ รวมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในปี 2563 รวมทั้งสิ้น 0.6690 บาท

กรุงเทพฯ 5 ตุลาคม 2563

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” เปิดเผยผลการดำเนินงานใน ปีงบประมาณ 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 มีรายได้รวมจำนวน 3,048.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 241.3 ล้านบาท หรือ 8.6% ขณะที่รายได้จากการลงทุนสุทธิมีจำนวน 2,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 349.6 ล้านบาท หรือ 20% โดยมีปัจจัยหลักมาจาก ผลประกอบการโดยรวมที่ดีขึ้น และ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากทรัพย์ที่เข้าลงทุนใหม่ในปี 2563

ในรอบปี 2563 ถือว่าเป็นปีที่ FTREIT มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,908 ล้านบาทโดยแบ่งเป็น

  1. คลังสินค้าจาก บริษัท สหไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด รวม 24 ยูนิต มูลค่าการเข้าลงทุน 2,050 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินมีที่ตั้งใกล้กับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี
  2. อาคารโรงงานและคลังสินค้าจากกลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย บนทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในจังหวัดอยุธยา ปทุมธานี ชลบุรี และระยอง จำนวน 36 ยูนิต มูลค่าการเข้าลงทุนประมาณ 2,858 ล้านบาท สำหรับทรัพย์สินส่วนที่เหลือตามที่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้พิจารณาอนุมัติในที่ประชุมวิสามัญครั้งที่ 1/2563 จะทำการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนสิทธิการเช่าให้เสร็จสิ้นภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2564

ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 กองทรัสต์ FTREIT มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการรวม 614 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 1.87 ล้านตารางเมตร รวมมูลค่า 41,143.6 ล้านบาท ซึ่งยังครองสถานะกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

FIRM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ FTREIT ได้มุ่งเน้นการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ และด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สถานการณ์ที่กดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ ณ 30 กันยายน 2563 FTREIT ยังรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ไว้ได้ที่ 82.2%

พร้อมกันนี้ FTREIT ได้ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาสที่ 4/2563 ในอัตรา 0.1680 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ซึ่งมีกำหนดจ่ายในวันที่ 2 ธันวาคม 2563 รวมประโยชน์ตอบแทนในรอบปีงบประมาณ 2563 ที่จ่ายรวมทั้งสิ้น 0.6690 บาทต่อหน่วยทรัสต์

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” เปิดเผยว่า “ปี 2563 เป็นปีที่ต้องเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง ตลอดจนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแม้ว่าภาคการผลิต และการขนส่งจะได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับภาคการท่องเที่ยว และการบริการ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของกิจการที่อยู่ในอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยส่วนหนึ่งเป็นผู้เช่าอาคารโรงงาน และคลังสินค้าของ FTREIT ทั้งนี้ทางผู้จัดการกองทรัสต์มีนโยบายให้ความช่วยเหลือผู้เช่าโดยการลดค่าเช่า รวมถึงการเลื่อนชำระค่าเช่าตามสมควร โดยพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้เช่าเป็นรายบริษัทตามขนาดผลกระทบที่ผู้เช่าได้รับจากสถานการณ์ COVID-19 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ด้วยพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งของ FTREIT ทำให้ยังคงสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง การันตีจากการได้รับจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A (Stable Outlook) จากทริสเรทติ้ง รวมถึงการได้รับคัดเลือกให้เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Global Equity Index Series (GEIS) ซึ่งเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีชั้นนำระดับสากล ช่วยเพิ่มโอกาสและความน่าเชื่อถือให้กองทรัสต์ FTREIT สามารถเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ FTREIT จะยังคงมุ่งหน้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มอื่นๆ กองทรัสต์ต่อไป”

สอบถามข้อมูลนักลงทุนสัมพันธ์